(พ.ศ. 2542)
เย็นวันศุกร์ ปลายปีพ.ศ.2541 ผมเดินทางฝ่ารถติดไปยังถนนสุขุมวิท
จุดหมายปลายทางคือ ซอย8 ที่ตั้งสำนักงานนิตยสาร บันเทิงคดี ของบริษัท
ไมล์สโตน ตอนนั้นเป็นเวลา 6โมงเย็นพอดิบพอดี
ผมคิดในใจว่าคงไม่มีใครอยู่รอแล้ว เพราะเลยเวลาเลิกงานมาพอสมควร ผมและเพื่อน(อดีตภรรยา)รีบเดินจ้ำจากที่เราจอดรถอยู่กลางซอยเพื่อมาให้ถึงบริเวณปากซอยให้เร็วที่สุด
ในมือถือถุงผ้าดิบซึ่งด้านในใส่แฟ้มประวัติ แผนงาน รูปภาพ เทปเพลงตัวอย่างของผมมาด้วย
คิดอยู่ในใจว่า
ครั้งนี้คงเป็นครั้งสุดท้ายกับความฝันลมๆแล้งๆในการเป็นศิลปินออกอัลบั้มกับเขาสักชุด
ก่อนหน้านั้น ผมเคยนำเทปเพลงตัวอย่างนี้ไปเสนอกับ โซนี่มิวสิค
โดยคุณก๊อป ทีโบน เป็นผู้รับเรื่องพิจารณา
ผ่านไปสองสัปดาห์ได้คุยกับคุณก๊อปอีกครั้ง คุณก๊อปบอกว่า “สนใจนะ
แต่ไม่เหมาะกับค่าย วันหนึ่งคงได้ร่วมงานกัน เพลงคุณดี”
ทำให้ตัวผมเองคิดว่าเพลงรูปแบบนี้คงยากที่จะมีคนสนใจ ตอนนั้นผมถอดใจแล้ว
วันหนึ่งผมได้พบกับน้องสาว(น้องสาวของผมทำงานอยู่ช่อง3)ที่บ้านแม่
ผมเอาเทปตัวอย่างนี้เปิดให้น้องสาวฟัง น้องของผมบอกว่า “เพลงแบบนี้มันดีนะ
แต่ค่ายทั่วไปเขาไม่สนหรอกมันไม่ตลาด ทำไมถึงไม่ลองไปเสนอที่ค่ายของพี่ มาโนช
พุฒตาล ดูล่ะ” ด้วยความที่น้องสาวผมเคยไปทำข่าวบันเทิงที่ไมล์สโตนในสมัยนั้น
และได้รับแจกเทปเพลงอัลบั้มต่างๆมา ผมบอกกับน้องของผมว่า ก็เคยคิดนะ
แต่ศิลปินของค่ายนี้ เนื้อหาลึกทุกคน ไม่มีPopเลย(นั่น...ผมยังคิดว่างานของผมเป็นแนวPopอยู่)
โดยเฉพาะงานส่วนตัวของพี่ซัน มาโนช เอง แกจะมองงานของเฮีย(สรรพนามแทนตัว
เวลาคุยกับน้อง)หรือ? น้องสาวว่า ไม่ลองเสียหน่อยล่ะ
ผมโทรศัพท์ไปที่ไมล์สโตนโดยค้นเบอร์โทรจากปกเทปและหนังสือบันเทิงคดี
มีคนรับสายผมดีใจมาก พูดผิดๆถูกๆเลยล่ะ
สรุปใจความว่าทางบริษัทก็รับเทปตัวอย่างอยู่เรื่อยๆ
แต่ให้ดูว่างานของเราเป็นแนวทางแบบที่บริษัทต้องการหรือไม่
กลัวผมจะเสียเวลาคาดหวัง ผมตอบรับสั้นๆ “ครับ” คิดในใจว่า นี่ล่ะครั้งสุดท้าย
เฮือกสุดท้ายแล้ว
ผมไปยืนรออยู่หน้าบริษัทสักอึดใจ เห็นพี่ซันเอาค้อนตอกนู่นตอกนี่อยู่
สักพักแกก็ออกมารับถุงผ้าดิบที่ข้างในมีอะไรเยอะแยะไปหมดของผมด้วยตัวของแกเอง
ยิ้มแย้มแจ่มใส “เสียงพูดของแก เหมือนในทีวีเปี๊ยบเลย” ผมคิด
หนึ่งในฮีโร่ของผมยืนคุยอยู่กับผมห่างกันไม่ถึงเมตร ตื่นเต้นจนจับใจความอะไรไม่ค่อยได้หรอกครับ
รู้แต่ประโยคสุดท้ายพี่ซันบอกว่า “ประมาณ15วันนะครับ ถ้าไม่โทรไปแสดงว่าไม่ได้
ถ้าได้ผมจะเป็นฝ่ายโทรไปเอง”
ผมกลับไปบ้าน รอ...รอ...รอ...วันจันทร์มีโทรศัพท์มาที่บ้าน
ผมรับสายได้ยินเสียงปลายทางแทบลมจับ “สวัสดีครับ ขอสายคุณชัยวัฒน์ครับ ผมชื่อ
มาโนช จะโทรมานัดคุยว่าเราจะทำยังไงกันต่อไปเกี่ยวกับเพลงชุดนี้ดี”
นัดแนะกันเรียบร้อย พอวางสายเท่านั้นล่ะครับ ผมตะโกนเหมือนคนบ้า วิ่งไปรอบๆบ้าน
ทั้งหัวเราะ ทั้งร้องไห้ “มีคนเห็นแล้ว มีคนเห็นแล้ว”
ผมมารู้จากปากของพี่ซันหลังจากทำอัลบั้มเสร็จแล้วว่า เย็นวันศุกร์วันนั้น
พอผมลากลับ แกก็เข้าไปเปิดเทปเพลงของผมฟังเลย จะโทรหาก็ค่ำแล้ว เสาร์
อาทิตย์คงเป็นวันครอบครัว เลยโทรหาผมวันจันทร์ แกว่าเพลงแบบนี้ กลิ่นBeatlesแบบนี้ แปลกดี
ยังไม่มีใครทำ.