ก่อนเปิดห้อง

ห้องเก็บของสำหรับผม ก็คล้ายๆเป็นที่เก็บความทรงจำมากมายหลายอย่าง ของที่ยังใช้ได้ แต่ไม่มีโอกาสได้ใช้ ของที่เสียที่ชำรุดแล้ว แต่มีค่ามากกว่าที่จะทิ้งมันไป ของเก่าๆที่ไม่เข้ากับชีวิตปัจจุบัน กับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป รูปภาพ ม้วนเทปเพลงที่เคยแต่งเคยบันทึกไว้ง่ายๆ นานจนลืมไปแล้วว่ามีกี่เพลง เพลงอะไรบ้าง จดหมาย สมุดบันทึกในช่วงชีวิตต่างๆ มีเรื่องราวเกี่ยวกับตัวผมมากมายที่ครอบครัวผมเองก็ยังไม่เคยรู้ นานมากแล้วนะ ที่ไม่ได้เปิดประตูเข้าไปดูมันเลย ลองเข้าไปดูกับผมมั้ย?

*ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณเจ้าของรูปภาพประกอบเรื่องราวทั้งหลายมา ณ.ที่นี้ นิตยสาร สื่อสิ่งพิมพ์ ผู้ออกแบบปกอัลบั้มต่างๆ ทั้งภาพที่พี่ๆศิลปินส่งมาให้ ภาพเก่าที่บราเธอร์ , มาสเตอร์ หรือเพื่อนเก่าๆได้ถ่ายเอาไว้ ใครเป็นคนถ่ายบ้างก็ไม่รู้มั่วไปหมด รูปภาพที่มีผม ผมไม่ได้ถ่ายเองอยู่แล้ว แม้บางภาพจะเป็นกล้องและฟิล์มของผมเองก็ตาม


วันอังคารที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2557

24ปี สืบ นาคะเสถียร


วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม พ..2557 ผมได้ติดตามพี่ซัน มาโนช พุฒตาล ไปกับรถขับเคลื่อนสี่ล้อ DEFENDER ของแก เพื่อมุ่งหน้า “ห้วยขาแข้ง” จังหวัด อุทัยธานี ในนามวงดนตรี Little Lamb (The Lamb แบบย่อส่วน) เพื่อร่วมงานแสดงดนตรีรำลึกการจากไปของพี่สืบ สืบ นาคะเสถียร การเดินทางเป็นไปด้วยความสนุกสนานโดยพี่ซัน เป็นผู้ขับรถ มีคุณหยิก สมพร ศรีเมือง ผู้ช่วยของพี่ซัน นั่งข้าง มีผม คุณว่อง ธีรภาพ ว่องเจริญ คุณกุ๊ก เกิดศิริ ปุรสาชิต สมาชิกวงทั้งหมดนั่งอยู่ส่วนท้าย พูดคุยเฮฮา มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง กันไปตลอดทาง



นานแล้วที่ผมไม่ได้เข้าป่ากับพี่ซัน ด้วยความที่โดยส่วนตัวเป็นคนชอบต้นไม้เขียวๆ กลิ่นดิน กลิ่นหญ้าอยู่แล้ว ทริปนี้จึงถือว่าผมได้อิ่มเอมใจกับสิ่งที่ผมชอบถึงสองอย่าง คือ ดนตรี กับ ธรรมชาติ




ค่ำคืนนั้น ระหว่างการแสดง ถึงแม้จะมีเหตุขลุกขลักเรื่องระบบไฟฟ้า และเวที แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือ “ใจ” ของผู้ที่ไปร่วมงาน และรับชมการแสดง ความเป็นกันเองของหัวหน้าหน่วยและนักอนุรักษ์ป่าที่บ้านพักหลังจากจบการแสดงแล้ว ก็อบอุ่น สนุกสนาน โดยเฉพาะพี่เชน ม.ล.ปริญญากร วรวรรณ (ผู้ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้พี่ซันแต่งเพลง เชนมีคู่หูป็นลิง) ได้เล่าเรื่องป่า เรื่องการทำงาน การผจญภัย เป็นที่น่าตื่นเต้นยิ่ง

3าฬิกา พวกเราขอตัวแยกย้ายกลับมาที่เต็นท์เพื่อพักผ่อน อากาศดี เสียงแมลง และเสียงที่ไม่รู้จักแว่วเข้าหู เผลอหลับไปตอนไหนไม่ทราบ มารู้สึกตัวอีกทีฟ้าก็เริ่มสว่างแล้ว พวกเราค่อยๆลุกขึ้นมุดออกจากเต็นท์ ทีละคนๆ เพื่ออาบน้ำแปรงฟัน พี่ซันวางกาเพื่อต้มน้ำจากเตาแก๊สพกพา นำน้ำร้อนเทใส่ โจ๊กถ้วยกระดาษ มื้อเช้าง่ายๆแต่ได้อารมณ์เที่ยวป่า(แบบคนเมือง) โชคไม่ดีนิดหน่อยที่ผมมีอาการอาหารเป็นพิษ อาเจียนหลายรอบ คงเพราะไข่ลวกสำเร็จที่พวกเราซื้อไว้ในวันก่อนหน้า ทำเหตุ

คุณว่อง ธีรภาพ (ผมเลยถ่ายให้ ทีละภาพ)


แม้ไม่อยากกลับ เพราะหลงใหลบรรยากาศ และด้วยความเกรงใจบรรดาสมาชิกท่านอื่นๆที่อาจจะยังพักผ่อนไม่เพียงพอ แต่ก็ต้องกลับเพราะติดภาระอาชีพดนตรีประจำที่ร้านอาหาร ขากลับพี่ซันทำตามสัญญา ขับรถกลับมาถึงกรุงเทพภายใน4โมงเย็น เพื่อให้ผมกับกุ๊กมีเวลาเตรียมตัวไปทำงาต่อในหัวค่ำวันนั้น ทั้งๆที่ผมสังเกตว่า บางช่วงของการขับรถ พี่ซันหลับ.