จากความเรื่องมากในด้านความต้องการหาศิลปินมากหน้าหลายตามาร่วมงานแล้ว
ด้านการบันทึกเสียงผมก็ยังสู้อุตส่าห์เพิ่มความมากเรื่องเข้าไปอีก
ห้องบันทึกเสียงต้องเป็นระบบ อนาล็อก เครื่องบันทึกเสียงเทป2นิ้ว
ซึ่งในตอนนั้นในเมืองไทยแทบจะไม่มีแล้ว พี่ซันพาผมไปดูห้องบันทึกเสียง Gecco Studio Complex ห้องบันทึกเสียงระบบ อนาล็อกชั้นแนวหน้า ในซอยสุขุมวิท39
ได้ไปพูดคุยกับพี่ณัฐเจ้าของกิจการถึงแผนงานบันทึกเสียงและความเป็นไปได้ที่จะทำ
พี่ณัฐแนะนำพี่ตุ้ย ทศพร รุ่งวิทยา ซาวด์เอนจิเนียจบจากนอก ที่ทำงานในสายดนตรีมานาน
คุณอู่ ไตรเทพ วงค์ไพบูลย์ มือมิกซ์เสียงที่จบมาจากนอกเช่นกัน
และมีน้องชายของเพื่อนผม โช จักรกฤช บัวเอี่ยม มาช่วยดูแลระบบ
การบันทึกเสียงแบบนี้
แน่นอนว่าย่อมต้องลำบากกว่าการบันทึกเสียงในปัจจุบัน
การแก้ไขข้อผิดพลาดในรายละเอียดแทบจะทำไม่ได้เลย บางทีหูได้ยินตำหนิของเสียงบางเสียงแต่ก็ต้องปล่อยผ่าน
เรียกว่าถ้าส่วนใหญ่ดี ส่วนน้อยที่เป็นติ่งเสีย เราก็ต้องทำใจ จึงเป็นที่มาของความดิบแบบโบราณ
เครื่องดนตรีทุกชิ้นเล่นกันไม่กี่เทค เน้นความเป็นธรรมชาติ
ธรรมชาติของมนุษย์ที่ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ ครั้งหนึ่งจำได้ว่า
เครื่องบันทึกเสียงชำรุด ทำเอาใจผมเสียเลย
เพราะไม่รู้ว่าเครื่องที่มีอายุขนาดนี้จะซ่อมได้หรือไม่ มีอะไหล่หรือเปล่า
ระยะเวลานานขนาดไหน ซ่อมเสร็จแล้วสปีดความเร็วจะเท่าเดิมไหม
เพราะสิ่งที่บันทึกเข้าไปแล้วมันเรียกกลับคืนมาเก็บไว้ที่อื่นไม่ได้แล้ว หรือจะต้องบันทึกกันใหม่ทั้งหมด?
การซ่อมแซมเครื่องในครั้งนั้นใช้เวลา 20กว่าวัน
เครื่องก็กลับมาใช้งานได้ปกติ
อัลบั้มพาราณสี ออเคสตรา ใช้คิวบันทึกเสียงทั้งสิ้นรวมมิกซ์ดาวน์แล้ว 35 คิว
ก็เสร็จสมบูรณ์ ความยากในการมิกซ์คือใช้มือคนล้วนๆ ไม่ว่าจะเป็นการแพนซ้ายขวา
การเฟดเสียงดังเบาในบางท่อน หรือในบางแทร็คจะมีเสียงคน
กับเสียงเครื่องดนตรีปนกันอยู่ เนื่องจากแทร็คไม่พอ (นี่ขนาดกลองทั้งชุด
ใช้ไมโครโฟนจับเสียงตรงหน้าชุดกลองแค่สองตัวเท่านั้น
มีไมโครโฟนจับที่กลองเหยียบเผื่อไว้อีกตัวเดียว
ซึ่งตอนมิกซ์จริงๆไม่ค่อยได้ใช้แทร็คนี้สักเท่าไรนัก)ผมกับคุณอู่จึงต้องแบ่งหน้าที่กันคนละครึ่งบอร์ดมิกเซอร์
จัดนู่นหมุนนี่สดๆระหว่างมิกซ์ดาวน์ถ่ายเสียงลงเทปdat2แทร็คเพื่อใช้เป็นมาสเตอร์อีกที
บางครั้งจังหวะการหมุนของมือกับเสียงไม่ลงรอยกัน
ก็ต้องเริ่มทำกันใหม่ตั้งแต่ต้นเพลง มีการนำเอฟเฟคอนาล็อกเสียงแปลกๆที่ใช้กับกีตาร์
มาใช้มิกซ์เสียงร้องในงานนี้แบบเข้าท่าเข้าที ที่สำคัญ ผมจะกำชับเลยว่า
เราจะไม่แต่งเสียงทุ้มแหลมอะไรให้มันผิดธรรมชาติ เน้นเสียงตอนบันทึกอย่างไร
ก็ให้ออกมาแบบนั้น อาจได้ยินแล้วไม่ใสขัดใจผู้ฟัง แต่ความรู้สึก LoFi
แบบนี้ฟังแล้วหูไม่ล้า ให้ความรู้สึกร่วมที่ดีกว่า
ผลที่ออกมาถือว่าประสบความสำเร็จ เป็นงานที่น่าพอใจครับ
ยอดขายไม่ต้องพูดถึง(ฮา) พี่ซันเคยบอกว่า
นี่เป็นอัลบั้มที่ใช้ทุนเยอะเป็นอันดับต้นๆของผลงานทั้งหมดในบริษัทเลย
ขอบคุณพี่ซันที่เชื่อมั่นในงานของผมครับ ผมยังติดหนี้บุญคุณพี่ซันจวบจนทุกวันนี้.