ยอมทำทุกอย่าง ตะเกียกตะกาย
ตะกายดาว อัลบั้มรวมเพลงประกอบละคร(รวมศิลปิน)
คืองานต่อมาที่ผมได้รับมอบหมายให้แกะเพลงทั้งอัลบั้มเพื่อแสดงแค่ครั้งเดียว
ถ่ายทอดสดทาง ททบ.5โลกดนตรี
จากนั้นงานประเภทแกะเพลงเพื่อแสดงโชว์เดียวก็ทยอยเข้ามาเรื่อยๆ พบกับศิลปินมากมายท่านละครั้งเดียวหรืออย่างมากแค่สองครั้ง
ล้วนแต่เป็นงานแสดงสดรวมศิลปินทั้งสิ้น* ทั้ง มาช่า พี่นิดอรพรรณ(รับงานเต็มโชว์แทนวงแบ็คอัพประจำของพี่นิดงานหนึ่ง)
พี่กบทรงสิทธิ์ พี่ปั่น พี่สุรสีห์ ใหม่เจริญปุระ พี่แท่ง พี่ธเนศ พี่แอม พี่หนุ่ยอำพล(แกะเพลงแล้ว
ซ้อมกันเองแล้ว แต่วงแบ็คอัพพี่หนุ่ยที่ทีแรกไม่ว่างเล่นงานนั้น บังเอิญว่างพอดี) พี่มาลีวัลย์
พี่นันทิดา ฯลฯแม้กระทั่ง พี่เบิร์ด(งานสัมมนาของบริษัทFuji ที่พัทยา
แต่ถึงเวลาจริงใช้backing track)
มีอยู่งานหนึ่งเป็นงานฟรีคอนเสิร์ตรวมศิลปิน จัดแสดงหน้าที่ว่าการกรุงเทพมหานคร
รายชื่อเพลง30กว่าเพลง มีเวลาแกะเพลงและซ้อมกันประมาณ10กว่าวัน* ขณะที่ช่วงเวลานั้นยังมีงานประจำกลางคืนที่ทางบริษัทรับมาและส่งพวกเรา(เฉพาะวงแบ็คอัพ)ไปเล่นอีก(ซึ่งบริษัทไม่ผิดนะครับตามหลักความคุ้มค่าจ้างและเงินเดือนที่จ่ายออกมา) เวลานอนไม่มี พื้นที่สมองของผมไร้ช่องว่างที่จะใช้จำอะไรได้อีกแล้ว
ตัดสินใจจดทุกอย่างใส่กระดาษและครั้งนั้นนับเป็นงานแรกที่ผมต้องพึ่งขาตั้งกระดาษโน้ตเพลง
ซึ่งทำให้ผมเริ่มคิดและตัดสินใจอะไรบางอย่างในใจ
หน้าToxicผับดังในยุคนั้น เพื่อเล่นประจำตามสัญญาของบริษัท
โรงแรม อโนมา อีกหนึ่งงานประจำยามค่ำคืน (ครั้งแรกพี่อู้ดยกกีตาร์ไปช่วยแจม)
งานใหญ่มีโอกาสผ่านเข้ามือมาอีกหนึ่งอัลบั้ม มอส (ปฏิภาณ ปฐวีกานต์)
กับการเป็นศิลปินนักร้องแบบเต็มตัวครั้งแรกของเขา เอ้อเฮอ ผมได้ฟังครั้งแรกจากเทปคาสเซ็ทที่ทางทีมงานcopyมาให้
เพื่อแกะเพลงซ้อม งานนี้สนุกครับ เพลงดี ไลน์กีตาร์สวย เพราะได้พี่สมชาย
กฤษณะเศรณี (อดีต The Impossibles)มาเป็นโปรดิวเซอร์ กำหนดการ
campusทัวร์ตระเวนแสดงดนตรีตามโรงเรียนมัธยมเยอะมาก
ไปกันหลายโรงเรียนเลยครับ ทั้งยังมีการแสดงคอนเสิร์ตถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์อีกหลายรายการ
ในขณะที่งานกลางคืนยังคงต้องทำตามสัญญา กลางวันซาวด์เช็ค ซ้อม หรือไม่ก็โชว์ (หลายครั้งโชว์เที่ยง
ทีมงานนัด7-8โมงเช้า) ตอนนั้นเอง ใจและแรงของผมเริ่มหมดลงแล้ว
ผมคิดว่าวันหนึ่ง ถ้าหมดงานอัลบั้มของมอสแล้ว ผมคงลาออกจากบริษัท แต่ความคิดของผมช้ากว่าติ๊ก
ติ๊กหัวหน้าวงแบ็คอัพของผมได้นัดแนะกับเพื่อนมือกีตาร์ที่อยู่ต่างจังหวัดของเขาให้แกะไลน์กีตาร์ที่ผมเล่นอยู่ทั้งหมดเพื่อเตรียมเดินทางมาสวมแทน*
แล้วjobสุดท้ายของผมก็จบลง เมื่อคอนเสิร์ต
ลูกไก่มอส ในอ้อมกอด ณ.MBK Hall ผ่านพ้น.
*หนึ่งในงานรวมเพลงรวมศิลปินงานหนึ่งคือ คอนเสิร์ต ดีเจใจแตก
รวมเหล่าดีเจทั้งหมดในเครือแกรมมี่มาร้องเพลงกันที่ MBK Hall งานนั้นพี่เต็ด
ยุทธนา บุญอ้อม เล่นเพลงของตัวเอง ดอกไม้ ที่ภายหลัง พี่จุ้ย ศุ บุญเลี้ยง
นำไปบันทึกเสียงใส่ในอัลบั้ม
*งานนั้นต่างคนต่างแกะเพลงกันไม่ทันหรอกครับ
เลยต้องใช้เทคโนโลยีช่วยกันยกใหญ่ ไลน์คีย์บอร์ด เบส กลอง
ต้องปล่อยซาวด์สังเคราะห์จากซีเควนเซอร์ออกมาช่วยหลายเพลง ก็ทำท่าทำทางกันไป
มีกีตาร์อย่างเดียวที่ทำแบบนั้นไม่ได้
ซาวด์สังเคราะห์ยังทำเลียนเสียงการเล่นและความเป็นธรรมชาติของกีตาร์ไม่ได้
*จริงๆผมไม่เคยรู้มาก่อน แต่สังเกตจากความเงียบผิดปกติภายในวง ผมถาม เล็ก
เพื่อนของผม เล็กไม่พูด ผมถาม ป๋วย เพื่อนของผมอีกคน ตื้ออยู่นาน ป๋วยถึงยอมบอก
ตอนนั้นพวกเราอยู่หน้าบริษัทพอดี ผมจึงตัดสินใจเดินเข้าไปขอลาออกกับพี่อู้ด
ถือเป็นการลาออกหลังแผนการไล่ออกในใจของหัวหน้าวงที่ถูกดำเนินการไปแล้ว 2สัปดาห์
“ชีวิต วัยใส หมดลงแต่เพียงเท่านี้ โปรดติดตาม วัยหนุ่ม ในตอนต่อไป”