ก่อนเปิดห้อง

ห้องเก็บของสำหรับผม ก็คล้ายๆเป็นที่เก็บความทรงจำมากมายหลายอย่าง ของที่ยังใช้ได้ แต่ไม่มีโอกาสได้ใช้ ของที่เสียที่ชำรุดแล้ว แต่มีค่ามากกว่าที่จะทิ้งมันไป ของเก่าๆที่ไม่เข้ากับชีวิตปัจจุบัน กับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป รูปภาพ ม้วนเทปเพลงที่เคยแต่งเคยบันทึกไว้ง่ายๆ นานจนลืมไปแล้วว่ามีกี่เพลง เพลงอะไรบ้าง จดหมาย สมุดบันทึกในช่วงชีวิตต่างๆ มีเรื่องราวเกี่ยวกับตัวผมมากมายที่ครอบครัวผมเองก็ยังไม่เคยรู้ นานมากแล้วนะ ที่ไม่ได้เปิดประตูเข้าไปดูมันเลย ลองเข้าไปดูกับผมมั้ย?

*ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณเจ้าของรูปภาพประกอบเรื่องราวทั้งหลายมา ณ.ที่นี้ นิตยสาร สื่อสิ่งพิมพ์ ผู้ออกแบบปกอัลบั้มต่างๆ ทั้งภาพที่พี่ๆศิลปินส่งมาให้ ภาพเก่าที่บราเธอร์ , มาสเตอร์ หรือเพื่อนเก่าๆได้ถ่ายเอาไว้ ใครเป็นคนถ่ายบ้างก็ไม่รู้มั่วไปหมด รูปภาพที่มีผม ผมไม่ได้ถ่ายเองอยู่แล้ว แม้บางภาพจะเป็นกล้องและฟิล์มของผมเองก็ตาม


วันจันทร์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2557

กีตาร์ไฟฟ้าตัวแรกของบ้าน

ภาพเก่าเล่าความหลัง (พ.ศ.2527)



ภาพนี้ถ่ายเอาไว้เมื่อตอนอายุ16 แต่จริงๆแล้วกีตาร์ตัวนี้เข้ามาอยู่ในบ้านประมาณปีพ..2524 เป็นกีตาร์ไฟฟ้าผลิตญี่ปุ่นทรงเลียนแบบLespaul ยี่ห้อ Memphis ที่พ่อของผมพาไปซื้อจากร้านเพื่อนของพ่อในเวิ้งนาครเขษม พร้อมแอมป์กีตาร์ยี่ห้อ Hamonic* ที่เห็นในรูป กับเบสตัวแรกของผมยี่ห้อ K.Matin ปัจจุบันกีตาร์ตัวนี้ไม่ได้อยู่กับผมแล้วนะครับ เนื่องจากครั้งหนึ่งไปซ้อมดนตรีกับวง เม็ดทราย ระหว่างเดินทางกลับ เจอค นักร้องนำผู้ซึ่งอาสาหิ้วกระเป๋าเอฟเฟคกีตาร์ของผมจากห้องซ้อมขึ้นรถตุ๊กๆมาด้วยกัน พอถึงที่หมายเจอคไม่ได้หยิบกระเป๋าเอฟเฟคของผมลงจากรถมาด้วย ผมจึงจำเป็นต้องแอบขายกีตาร์ตัวนี้ให้กับคุณครูดนตรีของน้องสาว โดยให้น้องสาวหิ้วกีตาร์ขึ้นรถประจำทางไปส่งมอบให้คุณครูที่โรงเรียน เพื่อนำเงินมาซื้อเอฟเฟคกีตาร์ใหม่ จากนั้นเป็นต้นมาผมไม่เคยวางใจหรือสะดวกใจให้ใครหิ้วเครื่องดนตรีให้อีกเลย จนถึงปัจจุบัน.


*จริงๆแล้วแอมป์ตัวนี้ไม่ใช่ของผม(งงมั้ย?) แอมป์ของผมเป็นแอมป์ยี่ห้อเดียวกันแต่เป็นระบบ “หลอด” ครั้งหนึ่งหลอดมันขาดเลยยกกลับไปซ่อมที่ร้าน หลายวันผ่านไปพอซ่อมเสร็จก็เรียกรถตุ๊กๆไปยกกลับบ้าน กลับถึงบ้านเรียกพี่เรียกน้องมาช่วยกันดูเพราะรู้สึกแปลกๆ(แค่ไฟแสดงผลเปิดปิดก็คนละสีแล้ว เสียงก็คนละเรื่องกันเลย) ดูไปดูมาดันกลายเป็นรุ่นระบบทรานซิสเตอร์ เห็นดังนั้นก็อุตส่าห์แบกขึ้นรถตุ๊กๆกลับไปที่ร้านอีกครั้งเพื่อแจ้งว่าให้ของมาผิดตัว ทางร้านบอกว่า ตัวนี้น่ะถูกต้องแล้ว “มันจะไปถูกได้ยังไง ของเราใช้อยู่ทุกวัน” ผมคิด แต่ผมเด็ก เลยเถียงไม่ชนะ