ในค่ำคืนแห่งความทรงจำ
“กูไม่เคยสะพายกีตาร์กูให้ใคร นอกจากพี่แหลมกับพี่กิตติ”
เสียงดุๆของพี่ ช อ้น
ณ.บางช้างกระซิบอยู่ข้างหูของผมระหว่างที่แกเอากีตาร์ของแกมาสะพายให้ผม
พร้อมกับดันหลังผมให้ขึ้นไปบนเวที
วันนั้นพี่เปี๊ยกนัดหมายกับพี่บุ๋ม ชัคกี้ ธัญญรัตน์ เพื่อเดินทางไป
แจม ยืดเส้นยืดสายกับวงดนตรี The Fox ที่มีพี่ ช อ้น เป็นหัวหน้าวงและเป็นมือกีตาร์
ร้านชื่อ แบมบู ริมถนนรัชดาใกล้ๆแยกห้วยขวาง
อันที่จริงพี่เปี๊ยกเคยพาผมไปเจอกับพี่ชัคกี้แล้วครั้งหนึ่งที่บ้านย่านลาดพร้าว
บ้านพี่ชัคกี้ตั้งอยู่ในซอยลาดพร้าวร้อยกว่าๆ ปากซอยมีร้านอาหารชื่อ บ้านนันทิดา
(ทุกวันนี้ให้ผมไปอีกครั้งคงหลงทาง เพราะเวลาผ่านมา25ปีแล้ว) แต่ครั้งนั้นเราแทบไม่ได้คุยกันเลย
ผมขึ้นไปยืนตั้งหลักบนเวทีสักพัก
พี่บุ๋มซึ่งกำลังเอามือปรับแอมป์กีตาร์หมุนปุ่มนั้นบิดปุ่มนี้อยู่ก็หันมายิ้มกับผม
พี่เปี๊ยกเงยหน้าขึ้นมาจาก Hammon จ้องมองดูผมอย่างไม่แน่ใจ แววตาเต็มไปด้วยคำถาม
คงทั้งถามผม และถามตัวแกเอง สีหน้าแหยๆของพี่เปี๊ยกในตอนนั้นยังติดตาผมมาจวบจนทุกวันนี้
ไม่แปลกหรอกครับที่พี่เปี๊ยกจะกังวล เพราะบนเวทีในคืนนั้นมีแต่ยอดฝีมือ
พี่ชาย(อดีต คาไลโดสโคป)เป็นมือกลอง หม่อง(ที่ต่อมาเป็นสมาชิก Wolf Pack)เล่นเบส
พี่ตุ้ม สุทธิเมศ เหล็กกล้า ร้องนำ พี่น้อยซานตานอยมือคีย์บอร์ดของFoxในขณะนั้นก็รู้สึกว่าจะร่วมแจมอยู่บนเวทีด้วย
รวมพี่เปี๊ยก กับพี่บุ๋มเข้าไปอีก เด็กชายวัย21แบบผมที่แกตั้งใจพามาให้นั่งดูดนตรีเพื่อเปิดหูเปิดตา
ตอนนี้กลับสะพายกีตาร์ยืนอยู่หน้าแก
การแจมกันในคืนนั้นผ่านไปด้วยดีครับ ทั้งเพลงของ Eric Clapton ,
Beatles , Santana , Led Zeppelin และเพลงบลูส์ต่างๆ
ร่วมๆชั่วโมงที่ผมยืนอยู่ตรงนั้น พี่บุ๋มน่ารักมากครับ ไม่ปล่อยให้เด็กแบบผมยืนเก้อเขินเลย
พยักหน้าส่งท่อนให้ผมโซโล่กีตาร์ตลอดแบบเชื่อใจ เหลือบไปเห็นพี่เปี๊ยกยิ้มได้
ผมก็มีความสุข จนพี่ตุ้ม ประกาศตามหาพี่ ช อ้น
ซึ่งแอบไปนั่งเล่นอยู่หลังร้านให้ขึ้นมาทำหน้าที่ของFoxต่อ
การแจมของพี่เปี๊ยก พี่บุ๋ม และผมก็สิ้นสุด
หลังจากที่คุยภาษาดนตรีจบลง
การสนทนาบนโต๊ะอาหารและเครื่องดื่มก็เริ่มขึ้นอย่างสนุกสนาน
พี่บุ๋มเผยว่ากำลังคิดโปรเจค ชัคกี้กับThe Fox โดยมอบหมายให้พี่เปี๊ยกซึ่งเคยร่วมงานกับพี่บุ๋มในวง
Rockestra ทำหน้าที่โปรดิวเซอร์และได้ชักชวนผมให้เข้าร่วมเป็นทีมงานแต่งเพลง.