ความตื่นเต้นและความสนุกสนานในรั้วมหาวิทยาลัยสิ่งหนึ่งคงหนีไม่พ้นกิจกรรมต่างๆ
ตอนที่ผมเข้าเรียนชั้นปีที่1ได้ไม่กี่วัน รุ่นพี่ก็จับให้ผมเป็นคนถือพานไหว้ครู
ในงาน Freshy Night กับเพื่อนสาวสวยชื่อ
ตุ๊ก ที่นี่เขาแยกนะครับ ถือพานก็ถือไป คู่ที่ประกวดดาวก็ประกวดไป
ไม่ใช่คู่เดียวกัน ปีนั้นดาวฝั่งหญิงถ้าจำไม่ผิด น่าจะเป็น นาตาชา เปลี่ยนวิถี
เรียนคณะเดียวกันนี่ล่ะครับแต่ไม่เคยคุยกัน
การทำละครเวทีของคณะก็มีอยู่หลายครั้ง ช่วยกันเขียนบทบ้าง
ช่วยกันแสดงบ้าง ผมจะอยู่ฝั่งช่วยเขียนบทเสียมากกว่า (เสียดสีสังคมบ้าง
ล้อเลียนอาจารย์ในคณะบ้างตามเรื่องตามราวจะพาไป) หรือไม่บางครั้งก็อยู่ฝ่ายดนตรีประกอบไปเลย
มีละครอยู่เรื่องหนึ่ง ประสิทธิ์ (ประสิทธิ์ ฉกาจธรรม) ตามผมไปช่วย
งานนั้นน่าจะเป็นละครของสาขาภาษาญี่ปุ่นร่วมกับสาขาภาษาอังกฤษหรือเปล่าไม่แน่ใจ
ประสิทธิ์ขอให้ผมช่วยทำเพลงประกอบละครแบบเล่นสด เอาละสิ
ทำไมเพื่อนผมถึงเห็นผมเป็นคนเก่งได้ถึงขนาดนั้น แต่ผมกับ Casiotone 1เครื่องก็พาฟิลลิ่งของละครเรื่องนั้นผ่านไปได้
ประสิทธิ์ มักจะมีอะไรมาขอให้ผมทำอยู่เสมอ เชื่อมั้ยครับ
ครั้งหนึ่งผมเคยเล่นลำตัดกับเพื่อนอีก5ชีวิต (รวม
ประสิทธิ์ด้วย)บนเวทีหอประชุม ทั้งๆที่ไม่มีพื้นฐานมาก่อนเลย
ท่องบทที่ประสิทธิ์เป็นคนเขียนขึ้น ยาวก็ยาว ความจำก็แย่
สุดท้ายลำตัดที่บทฮาอยู่แล้ว ก็ยิ่งฮาเข้าไปอีก ทำเอาผมดังไปหลายวัน
อีกหนึ่งเรื่องใหญ่ที่ประสิทธิ์มาขอให้ทำคือ เรียบเรียงดนตรีเพลงคณะ2เพลงซึ่งประสิทธิ์เป็นคนแต่งเนื้อและทำนอง
จังหวะ March 1เพลง จังหวะ Waltz 1เพลง
ตอนนั้นเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ยังไม่มีหรอกครับ ที่บ้านมีแค่เครื่องบันทึกเสียงเล็กๆ4tracks แบบใช้เทปคาสเซ็ท เพลงใหญ่แบบนี้แค่เสียงร้องก็บันทึกไม่พอแล้ว อย่าว่าแต่จะมีเสียงเครื่องดนตรีอีกหลายชิ้น
ผมแก้ปัญหาโดยใช้เครื่องทำโปรแกรมกลองที่พอจะมีเสียงเครื่องดนตรีอื่นๆอยู่ในตัวมันบ้างสร้างจังหวะและเสียงดนตรีขึ้นมาเป็นเพลงภายในตัวของมันเองตัวเดียว
บันทึกเข้าไป2track(stereo L/R) อีก2track
ใช้บันทึกเสียงร้อง
(ของผมกับประสิทธิ์) ฟังดูไม่เลวทีเดียว
สองเพลงนี้ถูกนำมาใช้ในงานต่างๆของคณะพอสมควร
ทั้งยังถูกเปิดกระจายเสียงตอนช่วงพักเที่ยงบริเวณโรงอาหาร จากStudio ที่พวกผม(เอกวิทยุ-โทรทัศน์)เป็น DJจัดรายการวิทยุเสียงตามสายอยู่เป็นประจำ
อีกงานหนึ่งที่ทำเอาตื่นเต้น และตกใจมาก
ที่ตกใจนี่คือตกใจที่ไปร่วมงานไม่ทันนะครับ งานนั้นคืองานสัมมนาวิจารณ์งานเขียนของ
ป.อินทรปาลิต ที่ห้องประชุมของมหาวิทยาลัย
งานนั้นจะมีบุคคลภายนอกเข้าร่วมรับฟังด้วยเรียกว่าเป็นงานเปิด ผมได้รับมอบหมายจาก
อาจารย์ ธเนศ เวศร์ภาดา ให้พูดเรื่อง พล นิกร กิมหงวน ที่ผมถนัด ช่วงนั้นคือช่วงที่เรียนจบแล้ว
ผมเริ่มทำงานติดตามโปรดิวเซอร์เข้าห้องบันทึกเสียง
การบันทึกเสียงส่วนใหญ่ขณะนั้นจะเป็นช่วงกลางคืน ผลหรือครับ ผมตื่นสาย(มาก)
รู้ตัวอีกทีคืองานนี้ได้ผ่านไปแล้ว ผมไม่กล้าไป หรือโทรศัพท์ไปขอโทษอาจารย์เลย
รู้ตัวว่าเป็นความผิดร้ายแรงถึงขั้นไม่กล้าสู้หน้า มีโอกาสได้คุกเข่าขอขมาอาจารย์ก็วันที่ซ้อมรับปริญญา
คุกเข่าอยู่นานอาจารย์ก็ให้อภัย
ผมขอโทษอาจารย์อีกครั้งนะครับ ด้วยความสำนึกผิดจากใจจริง.
จากซ้าย ระ , ประสิทธิ์ , ผม
*ประสิทธิ์ ฉกาจธรรม ปัจจุบัน เป็นผู้บริหารในเครือของบริษัท CP และเป็นนักเขียน
*อาจารย์ ธเนศ เวศร์ภาดา ปัจจุบัน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ธเนศ เวศร์ภาดา