ก่อนเปิดห้อง

ห้องเก็บของสำหรับผม ก็คล้ายๆเป็นที่เก็บความทรงจำมากมายหลายอย่าง ของที่ยังใช้ได้ แต่ไม่มีโอกาสได้ใช้ ของที่เสียที่ชำรุดแล้ว แต่มีค่ามากกว่าที่จะทิ้งมันไป ของเก่าๆที่ไม่เข้ากับชีวิตปัจจุบัน กับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป รูปภาพ ม้วนเทปเพลงที่เคยแต่งเคยบันทึกไว้ง่ายๆ นานจนลืมไปแล้วว่ามีกี่เพลง เพลงอะไรบ้าง จดหมาย สมุดบันทึกในช่วงชีวิตต่างๆ มีเรื่องราวเกี่ยวกับตัวผมมากมายที่ครอบครัวผมเองก็ยังไม่เคยรู้ นานมากแล้วนะ ที่ไม่ได้เปิดประตูเข้าไปดูมันเลย ลองเข้าไปดูกับผมมั้ย?

*ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณเจ้าของรูปภาพประกอบเรื่องราวทั้งหลายมา ณ.ที่นี้ นิตยสาร สื่อสิ่งพิมพ์ ผู้ออกแบบปกอัลบั้มต่างๆ ทั้งภาพที่พี่ๆศิลปินส่งมาให้ ภาพเก่าที่บราเธอร์ , มาสเตอร์ หรือเพื่อนเก่าๆได้ถ่ายเอาไว้ ใครเป็นคนถ่ายบ้างก็ไม่รู้มั่วไปหมด รูปภาพที่มีผม ผมไม่ได้ถ่ายเองอยู่แล้ว แม้บางภาพจะเป็นกล้องและฟิล์มของผมเองก็ตาม


วันพฤหัสบดีที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

พี่คิดของพี่ไปเอง

อย่างที่บอกครับ ตอนที่เรียนอยู่มหาวิทยาลัย เรื่องดนตรีผมก็ไม่ได้ทิ้งเสียทีเดียว ได้รู้จักกับเพื่อนนักกีตาร์ต่างคณะ(มีคนหนึ่งชื่อ โหน่ง ต่อมาได้เข้าเป็นมือกีตาร์แบ็คอัพให้ศิลปินของบริษัทแกรมมี่หลายท่าน ยุคเดียวกันกับที่ผมเข้าไปเป็นมือกีตาร์แบ็คอัพเช่นกัน แต่เราอยู่กันคนละวง) อีกทั้งรุ่นพี่ต่างคณะในชมรมดนตรีสากลบ้าง ตั้งวงกันเล่นๆชวนพี่พนักงานนักการมาตีกลอง(หน้าและเสียงร้องเพลงของน้า เหมือนพี่เล็กคาราบาวสุดๆ แล้วตอนนั้นเพลงบาปบริสุทธิ์ของคาราบาวก็กำลังดังเปรี้ยงป้าง)เล่นเพลง คาราบาว , อัสนี วสันต์ , สากลฮิตๆยุคนั้นนิดหน่อย ก็ซ้อมกันที่ห้องซ้อมของชมรมดนตรีในมหาวิทยาลัยนั่นล่ะ ซ้อมไปซ้อมมาจนเจอดี วันหนึ่ง ผมกับเพื่อนอีกคน(จิรัติ ตันติเวชกุล ลูกชายของ นิยม ตันติเวชกุล ผู้กำกับภาพยนตร์ดัง เทพบุตรต๊ะติ้งโหน่ง)ที่เรียนอยู่คณะเดียวกัน กำลังเปิดแอมป์ซ้อมกีตาร์กันอยู่ก็มีรุ่นพี่ท่านหนึ่ง(ขอสงวนนาม) พาพวกมากันเต็ม เปล่าครับ ไม่ใช่จะมารอซ้อมต่อแต่อย่างใด แต่พวกพี่เขามาปิดห้องไม่ให้พวกผมออก เป็นใครใครก็งงครับ เรื่องอะไรก็ไม่รู้ หน้าตาก็ไม่เคยเห็นกันมาก่อน คุยไปคุยมาก็เป็นเรื่องเหม็นขี้หน้า(จริงๆต้องเรียกว่าเหม็นเสียงกีตาร์ เพราะไม่เคยเห็นหน้ากัน)แบบไม่มีสาเหตุ ผมกับเพื่อนก็ได้แต่ยกมือไหว้ขอโทษรุ่นพี่ท่านนั้น (ขอโทษเรื่องอะไรยังไม่รู้เลย ฮา )แล้วแกก็บอกว่า ไม่เป็นไร เราพี่น้องกันอยู่แล้ว(นั่นแน่... ก็ต้องไม่เป็นไรสิพี่ ผมยังไม่ได้ไปทำอะไรพี่สักหน่อย พี่คิดของพี่ไปเองคนเดียวนี่ครับ) เรื่องราวก็มีเพียงเท่านี้ .