ก่อนเปิดห้อง

ห้องเก็บของสำหรับผม ก็คล้ายๆเป็นที่เก็บความทรงจำมากมายหลายอย่าง ของที่ยังใช้ได้ แต่ไม่มีโอกาสได้ใช้ ของที่เสียที่ชำรุดแล้ว แต่มีค่ามากกว่าที่จะทิ้งมันไป ของเก่าๆที่ไม่เข้ากับชีวิตปัจจุบัน กับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป รูปภาพ ม้วนเทปเพลงที่เคยแต่งเคยบันทึกไว้ง่ายๆ นานจนลืมไปแล้วว่ามีกี่เพลง เพลงอะไรบ้าง จดหมาย สมุดบันทึกในช่วงชีวิตต่างๆ มีเรื่องราวเกี่ยวกับตัวผมมากมายที่ครอบครัวผมเองก็ยังไม่เคยรู้ นานมากแล้วนะ ที่ไม่ได้เปิดประตูเข้าไปดูมันเลย ลองเข้าไปดูกับผมมั้ย?

*ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณเจ้าของรูปภาพประกอบเรื่องราวทั้งหลายมา ณ.ที่นี้ นิตยสาร สื่อสิ่งพิมพ์ ผู้ออกแบบปกอัลบั้มต่างๆ ทั้งภาพที่พี่ๆศิลปินส่งมาให้ ภาพเก่าที่บราเธอร์ , มาสเตอร์ หรือเพื่อนเก่าๆได้ถ่ายเอาไว้ ใครเป็นคนถ่ายบ้างก็ไม่รู้มั่วไปหมด รูปภาพที่มีผม ผมไม่ได้ถ่ายเองอยู่แล้ว แม้บางภาพจะเป็นกล้องและฟิล์มของผมเองก็ตาม


วันอาทิตย์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ตอนที่ 18 (วัยใส)

โต๊ะตุ้มตั้น  (พ.ศ.2535)

ผมยกกีตาร์ Gibson Lespaul ออกจากกล่อง ส่งปลายสายjackอีกด้านหนึ่งให้ พี่อู้ด สิทธิพร อมรพันธุ์(อดีตมือกีตาร์ The Impossibles)  เนื่องจากตู้แอมป์กีตาร์อยู่ภายในบริเวณข้างโต๊ะทำงานของแก “เล่นอะไรก็ได้ไปเรื่อยๆ เราจะปรับแอมป์ให้” ระหว่างที่ผมไล่นิ้วบนคอกีตาร์ไปเรื่อยๆ พี่อู้ดที่ซึ่งยังคงก้มหน้าก้มตา(ทำเป็นแกล้ง)ปรับแอมป์ ปากก็ชวนผมคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้เป็นระยะ จำได้ว่าผมเล่นไปได้ไม่กี่โน้ตพี่อู้ดก็ผละหน้าจากตู้แอมป์หันมาทางผม “เล่นใช้ได้นี่” แล้วแกก็หยิบสัญญาว่าจ้างขึ้นมาให้ผมกรอกรายละเอียดพร้อมเซ็นชื่อ นั่นคือวันแรกที่ผมได้ร่วมงานกับ EOบริษัทที่ทำและจัดการเกี่ยวกับงานแสดงทั้งหมดในเครือ แกรมมี่ โดยมีพี่อู้ดเป็นเจ้านายสายตรง


ผมถูกจับให้ไปอยู่กับวงแบ็คอัพวงใหม่ในบริษัทวงหนึ่งซึ่งพวกเขาขาดมือกีตาร์ งานแรกที่ได้รับมอบหมายจากพี่อู้ดคือ แกะเพลงเพื่อเตรียมทำการซ้อมกับ พี่โต๊ะ(วสันต์ โชติกุล) อัลบั้ม ขึ้นโต๊ะ ผมดีใจมากเพราะผมชื่นชอบพี่โต๊ะมาตั้งแต่ Isn’t สมัยผมยังเด็กๆ แต่ก็อดหวั่นใจไม่ได้เพราะผมไม่เคยรู้จักและไม่เคยได้เล่นดนตรีกับสมาชิกวงแบ็กอัพวงนี้คนไหนมาก่อนเลย เรียกว่ามาเดี่ยวๆโดดๆ น่ากลัวเหมือนกัน แต่ตอนนั้นต้องมุ่งประเด็นไปที่พี่โต๊ะเป็นอันดับแรก ผมตั้งใจเก็บตัวอยู่แต่บนห้องนอน แกะเพลง แล้วก็ทวน แล้วก็ทวน แล้วก็ทวน เป็นแบบนี้อยู่จนกระทั่งวันกำหนดการนัดซ้อมมาถึง(ผมจำไม่ได้ว่าวงแบ็คอัพได้ซ้อมกันก่อนหน้านี้หรือไม่ อาจจะมีครั้งหรือสองครั้ง) วันนั้นผมเห็นพี่โต๊ะตัวจริงเป็นครั้งแรก ผมตื่นเต้นมาก และยิ่งไปกว่านั้นพี่โต๊ะชวน พี่ตุ้ม วีระ โชติวิเชียร(อดีตวง White Support ,มิติ)มาเล่นกีตาร์ด้วย ตลอดการซ้อม พี่ทั้งสองคนใจดีและมีความเป็นมิตรมากครับ ไว้ใจและแบ่งไลน์กีตาร์ให้ผมเล่นเยอะเลย โดยเฉพาะ แทนคำนั้น และเพลง เชิญแขก ในสไตล์บลูส์ ที่พี่โต๊ะแบ่งให้พี่ตุ้ม ผม และตัวพี่โต๊ะเองโซโล่อิมโพรไวส์กีตาร์ในจำนวนท่อนที่เท่าๆกัน พอจบเพลงพี่โต๊ะพูดขึ้นมาแบบติดตลก ว่า นี่มือกีตาร์3คนของวงเรา โต๊ะตุ้มตั้น ตั้นตุ้มโต๊ะ กีตาร์ก็เป็นแบบยอดนิยมทั้ง3รุ่น เทเลคาสเตอร์ สตราโตคาสเตอร์ เลสพอล ขนาดวันนี้นึกย้อนกลับไปผมยังแอบอมยิ้ม เรานัดซ้อมกันได้ประมาณ2-3ครั้งก็ทราบข่าวร้ายสำหรับผม ได้ยินมาว่าพี่โต๊ะคุยกับพี่อู้ด อยากหาวงแบ็คอัพเองโดยจะขอตัวผมกับมือเบสแค่สองคนไปรวมกับทีม Isn’t ซึ่งพี่อู้ดไม่ตกลง ความฝันที่จะได้เล่นดนตรีกับพี่โต๊ะและพี่ตุ้มจึงจบลงแต่เพียงแค่นั้น.

   ช่วงแกะเพลงเพื่อไปซ้อมกับพี่โต๊ะ