...พี่กับน้อง (พ.ศ.2528- 2529 )
จริงๆ ก่อนที่พี่โหน่งจะห่างจากวงไป
ลูกวงมีมติที่จะหามือเบสอีกคนหนึ่งเผื่อไว้ เนื่องจากเพลงที่คิดว่าจะทำอัลบั้ม
ไลน์เบสเยอะ และพี่โหน่งก็จะเป็นคนร้องนำเสียส่วนใหญ่(ซึ่งอาจจะขัดจังหวะหากต้องเล่นเบสไปด้วยในการแสดงจริง)
ประกอบกับช่วงนั้น เวลาว่างๆ ทางวงก็จะนัดซ้อมเพลงสากลที่ไม่Popเท่าไร
เช่นงานเพลงของ Styx , Alan Parsons Project , Phil Collin ,
George Benson , Casiopia , The Square ฯลฯ เป็นการฝึกฝีมือ
ด้วยพี่โหนก มือกลองที่ถูกเคี่ยวเข็ญอย่างหนักมาจาก ดิ อินโนเซ้นท์
ได้นำความรู้และวิธีการดีๆแบบนั้น มาใช้กับพวกเรา หลังจบจากเม็ดทราย
พวกเราส่วนใหญ่ก็ยังคงทำวงซ้อมกันอยู่ รับงานนอก งานจ้างเรื่อยไป
หยุดความฝันที่จะได้ทำอัลบั้มไว้* เจอร์ แยกตัวไปทำวงกับป๋า
(ชาวฟิลิปปินส์ ) เล่นดนตรีแจ๊ส ผมกับพี่โหนก ถูกเจอร์ชวนไปเล่นกับป๋าในบางครั้ง
ตามงานโรงแรมบ้าง บ้านคนรวยๆบ้าง ตามต่างจังหวัดบ้าง
นักดนตรีก็เปลี่ยนหน้าไปตามวาระ หนึ่งในนั้นก็จะมี โล่
มือเบสแจ๊สลูกครึ่งฟิลิปปินส์ ที่ทุกวันนี้ก็ยังคงเล่นดนตรีแจ๊สในผับดังอยู่
(เท่าที่ได้ข่าวมา) จนพี่โหนกเสนอเจอร์ว่าน่าจะทำวงประเภทนี้กันเอง
โดยเจอร์ดึงเพื่อนจากโรงเรียน ACCมาช่วยอีกสองคน และได้เล่นประจำที่
เบียร์สิงห์เฮ้าส์ อโศก อยู่หลายเดือน. (คืนก่อนวันสอบเข้ามหาวิทยาลัย
ผมยังยืนเล่นดนตรีอยู่ที่นั่น จนครบเวลา )
*ช่วงเวลานั้น ดิ อินโนเซ้นท์ กำลังหานักร้องเพิ่มเพื่อทำอัลบั้มใหม่
ครั้งนี้...ของพี่กับน้อง
พี่โหนกได้แนะนำผมให้ไปทดสอบเสียงร้องกับทางวงที่ห้องบันทึกเสียงศรีสยามด้วยเพลง
สาว ‘86 ถึงแม้ว่าจะไม่ผ่าน
แต่ประสบการณ์ดีๆด้านวิธีการทำงานที่ได้รับ มีมากมายเหลือเกิน
ผมยังจดจำมาใช้ตราบจนทุกวันนี้ ต้องขอขอบคุณ พี่โอม พี่สันต์ พี่ปื๊ด พี่สายชล มา
ณ.โอกาสนี้ครับ ที่ขาดไม่ได้คือพี่โหนก พี่ชายที่แสนดีของผม ที่หาโอกาสมาให้ผมหลายครั้งเหลือเกิน
ซึ่งจะเล่าถึงในตอนต่อๆไป