ก่อนเปิดห้อง

ห้องเก็บของสำหรับผม ก็คล้ายๆเป็นที่เก็บความทรงจำมากมายหลายอย่าง ของที่ยังใช้ได้ แต่ไม่มีโอกาสได้ใช้ ของที่เสียที่ชำรุดแล้ว แต่มีค่ามากกว่าที่จะทิ้งมันไป ของเก่าๆที่ไม่เข้ากับชีวิตปัจจุบัน กับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป รูปภาพ ม้วนเทปเพลงที่เคยแต่งเคยบันทึกไว้ง่ายๆ นานจนลืมไปแล้วว่ามีกี่เพลง เพลงอะไรบ้าง จดหมาย สมุดบันทึกในช่วงชีวิตต่างๆ มีเรื่องราวเกี่ยวกับตัวผมมากมายที่ครอบครัวผมเองก็ยังไม่เคยรู้ นานมากแล้วนะ ที่ไม่ได้เปิดประตูเข้าไปดูมันเลย ลองเข้าไปดูกับผมมั้ย?

*ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณเจ้าของรูปภาพประกอบเรื่องราวทั้งหลายมา ณ.ที่นี้ นิตยสาร สื่อสิ่งพิมพ์ ผู้ออกแบบปกอัลบั้มต่างๆ ทั้งภาพที่พี่ๆศิลปินส่งมาให้ ภาพเก่าที่บราเธอร์ , มาสเตอร์ หรือเพื่อนเก่าๆได้ถ่ายเอาไว้ ใครเป็นคนถ่ายบ้างก็ไม่รู้มั่วไปหมด รูปภาพที่มีผม ผมไม่ได้ถ่ายเองอยู่แล้ว แม้บางภาพจะเป็นกล้องและฟิล์มของผมเองก็ตาม


วันเสาร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ทางผ่าน

ในยุคที่ผมยังทำงานเพลงโฆษณาและโปรเจคส่วนตัวให้กับพี่คนหนึ่ง สถานที่ที่ผมต้องเข้าไปทำงานเป็นประจำอยู่แถวๆเพลินจิต ปกติก็แล้วแต่จะนัดกันนะครับ กลางวันบ้าง กลางคืนบ้าง แล้วแต่บุคลากรที่พวกเราต้องทำงานด้วยว่าสะดวกกันเมื่อไร ปัญหาเรื่องที่จอดรถ หรืออาจจะเป็นเหตุผลเรื่องเสียงที่ดังรบกวนการทำงานของพนักงานประจำจริงจังในบริษัทนั้นช่วงกลางวัน ซึ่งพวกเขาไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรด้วยเลย หลากหลายกรณีครับ


วันนั้นก็เช่นกัน วันที่พวกเรานัดกันเข้าไปทำงานตอนค่ำๆ จริงๆช่วงนั้นพวกเรานัดทำงานรอบค่ำกันมาสักพักหนึ่งแล้ว เป็นอันรู้กันว่าเราจะเริ่มงานประมาณ3ทุ่มบวกลบนิดหน่อยเพื่อเลี่ยงรถติด (เพราะเราต้องฝ่าการจราจรบนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ มาเลี้ยวขวาเข้าเส้นหลัง นานา แล้วมาเลี้ยวขวาอีกทีที่เส้นตัดถนนสุขุมวิทเพื่อมุ่งหน้าเพลินจิต เรียกว่าโหดร้ายตลอดเส้นทางทีเดียว) จะเร็วหรือช้ากว่านั้นบ้างก็ตามลำดับงานของใครก่อนหลัง ผมรู้สึกแปลกๆตั้งแต่อยู่ที่บ้านช่วงเย็น มันง่วงนอนอย่างไรบอกไม่ถูก หัวหนักๆ เปลือกตาเหนื่อยๆคล้ายๆจะไม่สบายจึงตัดสินใจเอนตัวนอนพัก ผมเผลอหลับไปนานมาก มารู้สึกตัวอีกที เหลือบมองนาฬิกาจำได้ว่าเป็นเวลาอีกไม่กี่นาทีจะสี่ทุ่มแล้ว ตอนนั้นอาการเกี่ยวกับร่างกายเริ่มดีขึ้น 

ผมงัวเงียค่อยๆลุกขึ้น พาตัวเองเดินโงนเงนไปอาบน้ำ แต่งตัว เอาหัวจ่อพัดลมให้ผมแห้ง แล้วลงบันไดมาชั้นล่างของบ้าน แม่ของผมยังทักเลยว่าไม่สบายทำไมไม่นอนไปเลย โทรไปลาเขาก็ได้(ด้วยความที่แม่คงไม่ค่อยชอบงานนี้ของผมสักเท่าไร) ผมยกหูโทรศัพท์บ้าน(ตอนนั้นยังไม่มีโทรศัพท์มือถือนะครับ ฮิตสุดๆก็ แพคลิ้งค์) ตั้งใจจะโทรไปบอกทางห้องบันทึกเสียงว่าผมจะไป late หน่อยเพราะไม่ค่อยสบาย ตอนนี้กำลังจะออกเดินทางแล้ว เสียงทางนั้น(ไม่แน่ใจว่าตอนนั้นใครเป็นคนรับสาย)ตอบกลับมาว่า ไม่ต้องมาแล้ว ไม่รู้ข่าวหรือว่า รถบรรทุกแก๊สระเบิดที่ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เห็นเงียบไปยังเป็นห่วงอยู่เลย คุยกันอีกสองสามคำ พอวางหูโทรศัพท์ ผมก็หันไปมองทีวีที่แม่เปิดดูอยู่ ข่าวรถบรรทุกแก๊สระเบิด กำลังรายงาน แต่ด้วยความที่แม่ของผมไม่เคยรู้เส้นทางที่ผมใช้ แม่เลยไม่ช๊อคเท่าผม.