ในยุคที่ผมยังทำงานเพลงโฆษณาและโปรเจคส่วนตัวให้กับพี่คนหนึ่ง
สถานที่ที่ผมต้องเข้าไปทำงานเป็นประจำอยู่แถวๆเพลินจิต
ปกติก็แล้วแต่จะนัดกันนะครับ กลางวันบ้าง กลางคืนบ้าง
แล้วแต่บุคลากรที่พวกเราต้องทำงานด้วยว่าสะดวกกันเมื่อไร ปัญหาเรื่องที่จอดรถ
หรืออาจจะเป็นเหตุผลเรื่องเสียงที่ดังรบกวนการทำงานของพนักงานประจำจริงจังในบริษัทนั้นช่วงกลางวัน
ซึ่งพวกเขาไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรด้วยเลย หลากหลายกรณีครับ
วันนั้นก็เช่นกัน วันที่พวกเรานัดกันเข้าไปทำงานตอนค่ำๆ
จริงๆช่วงนั้นพวกเรานัดทำงานรอบค่ำกันมาสักพักหนึ่งแล้ว เป็นอันรู้กันว่าเราจะเริ่มงานประมาณ3ทุ่มบวกลบนิดหน่อยเพื่อเลี่ยงรถติด
(เพราะเราต้องฝ่าการจราจรบนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ มาเลี้ยวขวาเข้าเส้นหลัง นานา
แล้วมาเลี้ยวขวาอีกทีที่เส้นตัดถนนสุขุมวิทเพื่อมุ่งหน้าเพลินจิต
เรียกว่าโหดร้ายตลอดเส้นทางทีเดียว) จะเร็วหรือช้ากว่านั้นบ้างก็ตามลำดับงานของใครก่อนหลัง
ผมรู้สึกแปลกๆตั้งแต่อยู่ที่บ้านช่วงเย็น มันง่วงนอนอย่างไรบอกไม่ถูก หัวหนักๆ
เปลือกตาเหนื่อยๆคล้ายๆจะไม่สบายจึงตัดสินใจเอนตัวนอนพัก ผมเผลอหลับไปนานมาก
มารู้สึกตัวอีกที เหลือบมองนาฬิกาจำได้ว่าเป็นเวลาอีกไม่กี่นาทีจะสี่ทุ่มแล้ว
ตอนนั้นอาการเกี่ยวกับร่างกายเริ่มดีขึ้น
ผมงัวเงียค่อยๆลุกขึ้น
พาตัวเองเดินโงนเงนไปอาบน้ำ แต่งตัว เอาหัวจ่อพัดลมให้ผมแห้ง
แล้วลงบันไดมาชั้นล่างของบ้าน แม่ของผมยังทักเลยว่าไม่สบายทำไมไม่นอนไปเลย
โทรไปลาเขาก็ได้(ด้วยความที่แม่คงไม่ค่อยชอบงานนี้ของผมสักเท่าไร)
ผมยกหูโทรศัพท์บ้าน(ตอนนั้นยังไม่มีโทรศัพท์มือถือนะครับ ฮิตสุดๆก็ แพคลิ้งค์)
ตั้งใจจะโทรไปบอกทางห้องบันทึกเสียงว่าผมจะไป late หน่อยเพราะไม่ค่อยสบาย
ตอนนี้กำลังจะออกเดินทางแล้ว
เสียงทางนั้น(ไม่แน่ใจว่าตอนนั้นใครเป็นคนรับสาย)ตอบกลับมาว่า ไม่ต้องมาแล้ว
ไม่รู้ข่าวหรือว่า รถบรรทุกแก๊สระเบิดที่ถนนเพชรบุรีตัดใหม่
เห็นเงียบไปยังเป็นห่วงอยู่เลย คุยกันอีกสองสามคำ พอวางหูโทรศัพท์
ผมก็หันไปมองทีวีที่แม่เปิดดูอยู่ ข่าวรถบรรทุกแก๊สระเบิด กำลังรายงาน
แต่ด้วยความที่แม่ของผมไม่เคยรู้เส้นทางที่ผมใช้ แม่เลยไม่ช๊อคเท่าผม.